92 จำนวนผู้เข้าชม |
ว่านไก่แดง
“พญาไก่แดง” เป็นสัตว์ในป่าหิมพาน ได้มีตำนานกล่าวถึงพญาไก่แดงว่า ในสมัยของการสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของพระพุทธเจ้ากัสสะปะพุทธเจ้า ในครั้งนั้น พญาไก่แดงได้ใช้ความพยายามในการเก็บฟางข้าว มาทำที่ประทับรองนั่งให้พระพุทธเจ้ากัสสะปะก่อนจะสำเร็จ และยังเฝ้าระวังสัตว์เลื้อยคลานที่จะเข้ามารบกวนการทำสมาธิ ของพระพุทธองค์ จนกระทั่งสำเร็จโพธิญาณ แสงธรรมในการบรรลุนั้นได้แผ่ถึงพญาไก่แดง ที่เฝ้าดูแลพระองค์จนพญาไก่แดงสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ขั้นหนึ่ง แต่ยังต้องบำเพ็ญบุญกุศลแก่เพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกทั้งหลาย กาลต่อมา...พอสิ้นอายุขัยตามวัฏสังสารที่ไม่รอดจากการเกิดแก่เจ็บแล้วก็ตาย พระอรหันต์ผู้เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทำการปลงสังขาร ให้แก่พญาไก่แดงที่ริมหน้าผาสูง ผงอัฐิเถ้าของพญาไก่แดงจึงได้ไปเกิดเป็นว่านชนิดหนึ่งขึ้นมา
ที่เรียกกันว่า “ว่านพญาไก่แดง”
ผู้สันทัดกรณีเรื่องว่านจะทราบว่าว่านไก่แดงนั้นมี 2 ชนิด คือ ไก่แดงของไทย และไก่แดงของพม่า ไทยใหญ่แถบเชียงตุง
ไก่แดงของพม่า หรือไทยใหญ่นั้น จะขึ้นตามป่าเขาธรรมชาติ ชอบอากาศเย็น ถือว่ามีสรรพคุณยอดเยี่ยมด้าน “มหาเสน่ห์”
มีเรื่องเล่ากันว่าในอดีตว่ามี
ไก่ตัวผู้สีแดงตัวหนึ่งได้จิกกินว่านนี้ เมื่อเดินเข้ามาในฝูงไก่ตัวเมียจะมีไก่ตัวเมียเข้ามาคลอเคล้าเหย้าหยอก
ไก่ตัวเมียที่เข้ามาติดพันนั้นไม่ได้มาแค่ตัวเดียวแต่ยกโขยงเป็นฝูง .... นี่แหละฤทธิ์ของว่านไก่แดง
สำหรับวิธีการใช้ให้ได้ผลดีให้เสกด้วยคาถาน้ำมันว่านไก่แดงดังนี้
“กุกุสากุ อะยัง ยัดธะนัง
มานะตัง พุทธะ นะกุกุ”
น้ำมันว่านไก่แดง เป็นน้ำมันว่านที่พบมากในภาคเหนือโดยเฉพาะในเชียงใหม่พระเกจิมักใช้ในพิธีกรรม น้ำมันเจิมหรือสัก เนื่องจากมีสิริมงคลเป็นของวิเศษจากธรรมชาติ มีดีในตัวอยู่แล้ว เป็นเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์มีกลิ่นหอมไม่เหมือนน้ำมันว่านใดๆ เป็นกลิ่นเฉพาะของว่านไก่แดง
ว่านไก่แดง เป็นว่านที่ไม่มีในประเทศไทย ขึ้นเองตามธรรมชาติในป่า เป็นของหายากอยู่ในป่าลึก ไม่สามารถนำมาปลูกได้ ต้องเดินทางข้ามฝั่งไปเอาที่พม่าเป็นว่านมหาเสน่ห์ยอดนิยม ชั้นสูงแรงด้วยเมตตามหานิยม มีเรื่องเล่าไว้ว่าทาน้ำมันว่านไก่แดงที่หัวไก่ตัวหนึ่งแล้วปล่อยไปในหมู่บ้าน ปรากฎว่าไก่ทั้งหมดในหมู่บ้าน จะตามไก่ตัวนั้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ใช้พกติดตัว ติดร้านค้าเพื่อเป็นเมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์ ตลอดจนเสกด้วยพุทธคุณเพื่อให้คุ้มครอง ให้ปลอดภัยอีกด้วย พกไว้เฉยๆ ก็ได้หรือจะแต้มหน้าผากก่อนออกจากบ้านเป็นเมตตาแก่ผู้พบเห็น
อ.ธัชกร ธีรปัญญานนท์